สุขภาพกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการดูแลเรื่องอาหารการบำรุงเพื่อให้ลูกน้อยได้สารอาหาร
ที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายที่จะทำให้คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ การออกกำลังกาย
มีหลายหลาย แต่สิ่งที่ควรตระหนักในการเลือกการออกกำลังกายต้องดูให้เหมาะสมกับสุขภาพของคุณแม่
แต่ละท่านด้วย โยคะเป็นการออกกำลังกายอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่าน
อาจเพราะได้ทั้งเรื่องสุขภาพและสมาธิขณะฝึกด้วย วันนี้เรามีกูรูที่เป็นอาจารย์สอนโยคะ
คุณครู Minyoung Kim จาก ลัลลาบายโยคะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) มาให้ความรู้
ก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจเลือกออกกำลังกายประเภทนี้ การฝึกโยคะนอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพและสมาธิแล้ว
ยังช่วยในเรื่องการกำหนดลมหายใจเข้าออกที่ถูกต้องเพื่อจะได้นำออกซิเจนบริสุทธิ์ส่งไปถึงทารกในครรภ์
เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เข้าไปเลี้ยงทารกแล้วยังเป็นการฝึกการหายใจเพื่อเตรียมตัว
ในการคลอด และเกิดเป็นพลังที่นำไปใช้ในระหว่างการคลอดให้เป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย
ในระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายคุณแม่จะมีความยืดหยุ่นสูง จึงเหมาะกับการฝึกโยคะเพราะร่างกายคุณแม่
จะผลิตฮอร์โมนชนิดหนึ่งขึ้นเรียกว่า Hormone Relaxing เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่กระดูก ข้อต่อต่างๆ
ในร่างกายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้อุ้งเชิงกรานขยับขยายเพื่อรองรับการเจริญเติบโตและการเคลื่อนไหว
ของทารกในครรภ์ แต่ความยืดหยุ่นดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้ง่าย การฝึกสำหรับ
คุณแม่จึงไม่ฝึกในท่าที่มีความเสี่ยงและกระทบกระเทือนต่อการตั้งครรภ์ เช่น ท่า Core Strength,Back Bend
และ Inversion แต่จะต้องได้รับการปรับท่าฝึกให้มีความเหมาะสมและปลอดภัยต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ด้วย
การฝึกโยคะของคุณแม่ สามารถเริ่มฝึกได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 14-16 สัปดาห์ โดยครูผู้ฝึกจะสอบถาม
ประวัติการตั้งครรภ์ หากคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 16 สัปดาห์ และเป็นผู้ตั้งครรภ์ยาก ก็ควรจะรอถึง 16
สัปดาห์ และสามารถฝึกกันไปจนถึงช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือ full term (สัปดาห์ที่ 37-40) โดยเพิ่ม
ความระมัดระวังมากขึ้นตามอายุครรภ์ การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอไปจนใกล้คลอดจะทำให้การคลอด
เป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องได้รับการดูแลการฝึกโดยครูผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกโยคะสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ
จึงจะมีความปลอดภัยและได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ฝึกโยคะจะได้รับประโยชน์มากมายดังนี้
1. ช่วยบรรเทาอาการบวม รวมทั้งอาการตะคริว
2. ช่วยในการพัฒนาการเจริญเติบโตของโครงสร้างอวัยวะรวมทั้งจิตใจของทารก เพราะการฝึกจะช่วย
การหมุนเวียนของเลือดและส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงทารกได้อย่างเต็มที่
3. ช่วยในการบรรเทาอาการปวดหลัง ซึ่งมักเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
4. การฝึกโยคะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างความยืดหยุ่น ตลอดจนการบรรเทาความตึงเครียดระหว่าง
การตั้งครรภ์
5. ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายต่างๆ เช่น อาการคลื่นไส้ในตอนเช้า อาการกล้ามเนื้อหรือข้อต่อต่างๆ เจ็บตึง
6. ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกรานแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยให้รูปร่างคุณแม่หลังคลอด
กลับสู่ปกติได้เร็วขึ้น
7. ขณะที่ฝึกโยคะ คุณแม่จะได้ฝึกสมาธิไปในตัวในการกำหนดการหายใจเข้า-ออก พร้อมกับการฝึกอาสนะต่างๆ
8. การฝึกโยคะรวมเป็นกลุ่มจะทำให้คุณแม่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรื่องราวการตั้งครรภ์ และสร้างสัมพันธ์ที่ดี
ภายในกลุ่ม