ด้วยสภาพแวดล้อม การรับประทานอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เด็กยุคใหม่
ต้องเผชิญกับสารพิษและมลพิษที่อยู่รอบๆ ตัวมากขึ้น จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย อาทิ
โรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคสายตาที่มาพร้อมกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่มากเกินไป
เด็กสมัยนี้จึงมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันโรค ป่วยบ่อย โดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ
ที่คุณพ่อคุณแม่ ไม่มีเวลาจึงต้องส่งลูกเข้าเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้มีโอกาสติดเชื้อ เจ็บป่วย
และเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย
 
นพ. กิจจา ฤดีขจร กุมารแพทย์จากศูนย์การแพทย์นวบุตรสตรีและเด็ก ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์
(คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) กล่าวว่าสาเหตุที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยแข็งแรงไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันร่างกายเท่าที่ควร
สาเหตุเกิดจากสภาพแวดล้อมอากาศและมลพิษในปัจจุบัน ทำให้เด็กๆ ได้รับสารพิษโดยไม่รู้ตัว
ทั้งที่มาจากอาหารและสภาพแวดล้อม เด็กจึงป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น ทั้งแพ้อาหาร แพ้อากาศ
แพ้นมวัว เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลให้เจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจบ่อยขึ้น นอกจากนี้การส่งเด็ก
ไปโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยๆ และความแออัดในโรงเรียนที่มีจำนวนต่อเด็กห้องเรียนมากเกินไป
การดูแลที่ไม่ทั่วถึง ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากขึ้น ซึ่งเด็กเล็กมีภูมิต้านทานในทุกด้านต่ำกว่าผู้ใหญ่
แต่ภูมิต้านทานจะค่อยๆ พัฒนาเพิ่มขึ้นตามอายุ เมื่ออายุประมาณ 7 ปี เป็นต้นไป จึงอยู่ที่ระดับ
ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ เด็กยุคใหม่จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้มาก ซึ่งโรคที่พบได้บ่อย คือ
 
  • โรคภูมิแพ้ เช่น แพ้นมวัว แพ้อาหาร แพ้อากาศ หอบหืด เกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน
    เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม การได้รับนมแม่น้อยเกินไปหรือได้รับนมวัวในช่วง 6 เดือนแรก
    ป้องกันด้วยการให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก กำจัดสารกระตุ้นภูมิแพ้ในบ้าน เช่น
    ควันบุหรี่ ขนสัตว์ ไรฝุ่น แมลงสาบ หากเริ่มมีอาการภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา
    และหาวิธีป้องกันที่จำเพาะเจาะจง
  • ภาวะสมาธิสั้น เกิดจากการเลี้ยงดูหรือส่งเสริมพัฒนาการที่ไม่เหมาะสม ได้รับสื่อกระตุ้นประเภทจอสัมผัส
    หรือโทรทัศน์ก่อนอายุ 2 ปี ป้องกันได้ด้วยการไม่อนุญาตให้เด็กดูโทรทัศน์หรือจอสัมผัสทุกประเภท
    ก่อนอายุ 2 ปี พูดคุยกับเด็กด้วยภาษาที่ชัดเจน ช้าๆ เป็นคำเดี่ยวหรือประโยคสั้นๆ ไม่ซับซ้อน
    หากเด็กอายุ 2 ปีแล้วยังไม่สามารถพูดสื่อสารด้วยคำเดี่ยว ควรปรึกษากุมารแพทย์
  • ปัญหาสายตา จากการใช้สายตาที่ไม่เหมาะสม มองใกล้เกินไป สภาพแสงน้อยเกินไป เด็กสมัยนี้
    มีโอกาสเสี่ยงเป็นสายตาสั้นค่อนข้างสูง เพราะใช้สายตาไม่เหมาะสม ป้องกันด้วยการอ่านหนังสือ
    ในสภาพแสงที่เหมาะสม ไม่จ้องดูจอสัมผัสใกล้เกินไปหรือนานเกินไป เด็กเล็กไม่ควรดูต่อเนื่อง
    นานเกินครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง อุปกรณ์ควรห่างจากสายตาอย่างน้อยสามเท่าของเส้นทะแยงมุมของจอ
  • ปัญหาพฤติกรรม ความก้าวร้าว เอาแต่ใจตนเอง ควบคุมตนเองไม่เป็น ไม่รู้จักรอคอย ฯลฯ เกิดจากการ
    หย่อนยานระเบียบวินัย ไม่ฝึกวินัยตามวัย ปล่อยปละละเลย ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำหน้าที่
    แทนพ่อแม่
    วิธีแก้ไข: ผู้ปกครองต้องฝึกลูกให้เป็นคนมีระเบียบวินัย รู้จักการรอคอย และมีความรับผิดชอบ
                 สามข้อนี้เริ่มฝึก ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีเป็นต้นไป และเพิ่มความเข้มขันขึ้นตามอายุ
                 หากปล่อยปละละเลย จะกลายเป็น เด็ก EQ ต่ำ
นอกจากนี้เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดโรค คุณพ่อคุณแม่ควรสอนและแนะนำวิธีให้เด็กๆ
ดูแลและป้องกันตนให้ห่างไกลจากโรคด้วยวิธีการ คือ
 
  • ฝึกให้ลูกมีอนามัยส่วนบุคคล เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ไม่หยิบของเล่นหรือสิ่งของอื่นๆ
    เข้าปาก ไม่แคะจมูก ขยี้ตาหรืออมนิ้ว ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่เจ็บป่วย หรือไอจาม กินอาหาร
    ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักสด-ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เช่น เลี่ยงของเล่นสาธารณะที่อยู่ในร่ม เช่น บ้านบอล
    (มีเชื้อโรคสะสม) ไม่ไปสถานที่ที่มีคนแออัด เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่ควรไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
เมื่อเรารู้จักความเสี่ยงของโรคที่จะเกิดแล้ว และสอนเด็กๆ ให้เรียนรู้วิธีที่จะดูแลและป้องกันตนเองก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคและโอกาสในการเกิดโรคก็จะลดน้อยลงค่ะ....
 
Share 22,264

Relate Article

ปฏิบัติการกำจัดเซลลูไลท์

เซลลูไลท์ศัตรูตัวร้ายของผู้หญิง ทำลายความมั่นใจโชว์เรียวขาสวย ไม่เพียงแค่ต้นแขน ต้นขา

more

เสียงเตือน....จากอาการปวดเข่า

อาการปวดที่เข่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเข่าเสื่อมเสมอไป และไม่ได้เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น ทั้งวัยกลางคน

more

ทำอย่างไรเมื่อนอนไม่หลับ

พฤติกรรมการนอนของคุณเป็นแบบไหน เมื่อหัวถึงหมอนก็นอนหลับสบาย ถ้าแบบนี้ นับว่าคุณเป็นคนโชคดี

more

ต้อหิน... ภัยเงียบที่อาจทำให้สูญเสียดวงตา

ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญ ทำให้เรามองเห็นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ถ้าต้องสูญเสียดวงตา

more

สุดยอดผักผลไม้ช่วยล้างพิษ

ในชีวิตประจำวันของคุณเสี่ยงกับสารพิษมากน้อยแค่ไหน ควันพิษจากรถยนต์ สารกันบูดในอาหาร

more

10 วิธีง่ายๆ เติมน้ำให้ผิวสวยเด้งสุขภาพดี

น้ำคือชีวิต... เพราะน้ำมีความสำคัญต่อร่างกาย ขาดอาหารอยู่ได้ แต่ขาดน้ำอยู่ไม่ได้ ผิวก็เช่นกัน

more
ด้วยสภาพแวดล้อม การรับประทานอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เด็กยุคใหม่
ต้องเผชิญกับสารพิษและมลพิษที่อยู่รอบๆ ตัวมากขึ้น จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย อาทิ
โรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคสายตาที่มาพร้อมกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่มากเกินไป
เด็กสมัยนี้จึงมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันโรค ป่วยบ่อย โดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ
ที่คุณพ่อคุณแม่ ไม่มีเวลาจึงต้องส่งลูกเข้าเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้มีโอกาสติดเชื้อ เจ็บป่วย
และเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย
 
นพ. กิจจา ฤดีขจร กุมารแพทย์จากศูนย์การแพทย์นวบุตรสตรีและเด็ก ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์
(คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) กล่าวว่าสาเหตุที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยแข็งแรงไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันร่างกายเท่าที่ควร
สาเหตุเกิดจากสภาพแวดล้อมอากาศและมลพิษในปัจจุบัน ทำให้เด็กๆ ได้รับสารพิษโดยไม่รู้ตัว
ทั้งที่มาจากอาหารและสภาพแวดล้อม เด็กจึงป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น ทั้งแพ้อาหาร แพ้อากาศ
แพ้นมวัว เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลให้เจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจบ่อยขึ้น นอกจากนี้การส่งเด็ก
ไปโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยๆ และความแออัดในโรงเรียนที่มีจำนวนต่อเด็กห้องเรียนมากเกินไป
การดูแลที่ไม่ทั่วถึง ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากขึ้น ซึ่งเด็กเล็กมีภูมิต้านทานในทุกด้านต่ำกว่าผู้ใหญ่
แต่ภูมิต้านทานจะค่อยๆ พัฒนาเพิ่มขึ้นตามอายุ เมื่ออายุประมาณ 7 ปี เป็นต้นไป จึงอยู่ที่ระดับ
ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ เด็กยุคใหม่จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้มาก ซึ่งโรคที่พบได้บ่อย คือ
 
  • โรคภูมิแพ้ เช่น แพ้นมวัว แพ้อาหาร แพ้อากาศ หอบหืด เกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน
    เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม การได้รับนมแม่น้อยเกินไปหรือได้รับนมวัวในช่วง 6 เดือนแรก
    ป้องกันด้วยการให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก กำจัดสารกระตุ้นภูมิแพ้ในบ้าน เช่น
    ควันบุหรี่ ขนสัตว์ ไรฝุ่น แมลงสาบ หากเริ่มมีอาการภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา
    และหาวิธีป้องกันที่จำเพาะเจาะจง
  • ภาวะสมาธิสั้น เกิดจากการเลี้ยงดูหรือส่งเสริมพัฒนาการที่ไม่เหมาะสม ได้รับสื่อกระตุ้นประเภทจอสัมผัส
    หรือโทรทัศน์ก่อนอายุ 2 ปี ป้องกันได้ด้วยการไม่อนุญาตให้เด็กดูโทรทัศน์หรือจอสัมผัสทุกประเภท
    ก่อนอายุ 2 ปี พูดคุยกับเด็กด้วยภาษาที่ชัดเจน ช้าๆ เป็นคำเดี่ยวหรือประโยคสั้นๆ ไม่ซับซ้อน
    หากเด็กอายุ 2 ปีแล้วยังไม่สามารถพูดสื่อสารด้วยคำเดี่ยว ควรปรึกษากุมารแพทย์
  • ปัญหาสายตา จากการใช้สายตาที่ไม่เหมาะสม มองใกล้เกินไป สภาพแสงน้อยเกินไป เด็กสมัยนี้
    มีโอกาสเสี่ยงเป็นสายตาสั้นค่อนข้างสูง เพราะใช้สายตาไม่เหมาะสม ป้องกันด้วยการอ่านหนังสือ
    ในสภาพแสงที่เหมาะสม ไม่จ้องดูจอสัมผัสใกล้เกินไปหรือนานเกินไป เด็กเล็กไม่ควรดูต่อเนื่อง
    นานเกินครึ่งชั่วโมงต่อครั้ง อุปกรณ์ควรห่างจากสายตาอย่างน้อยสามเท่าของเส้นทะแยงมุมของจอ
  • ปัญหาพฤติกรรม ความก้าวร้าว เอาแต่ใจตนเอง ควบคุมตนเองไม่เป็น ไม่รู้จักรอคอย ฯลฯ เกิดจากการ
    หย่อนยานระเบียบวินัย ไม่ฝึกวินัยตามวัย ปล่อยปละละเลย ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำหน้าที่
    แทนพ่อแม่
    วิธีแก้ไข: ผู้ปกครองต้องฝึกลูกให้เป็นคนมีระเบียบวินัย รู้จักการรอคอย และมีความรับผิดชอบ
                 สามข้อนี้เริ่มฝึก ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีเป็นต้นไป และเพิ่มความเข้มขันขึ้นตามอายุ
                 หากปล่อยปละละเลย จะกลายเป็น เด็ก EQ ต่ำ
นอกจากนี้เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดโรค คุณพ่อคุณแม่ควรสอนและแนะนำวิธีให้เด็กๆ
ดูแลและป้องกันตนให้ห่างไกลจากโรคด้วยวิธีการ คือ
 
  • ฝึกให้ลูกมีอนามัยส่วนบุคคล เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ไม่หยิบของเล่นหรือสิ่งของอื่นๆ
    เข้าปาก ไม่แคะจมูก ขยี้ตาหรืออมนิ้ว ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่เจ็บป่วย หรือไอจาม กินอาหาร
    ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักสด-ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เช่น เลี่ยงของเล่นสาธารณะที่อยู่ในร่ม เช่น บ้านบอล
    (มีเชื้อโรคสะสม) ไม่ไปสถานที่ที่มีคนแออัด เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่ควรไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
เมื่อเรารู้จักความเสี่ยงของโรคที่จะเกิดแล้ว และสอนเด็กๆ ให้เรียนรู้วิธีที่จะดูแลและป้องกันตนเองก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคและโอกาสในการเกิดโรคก็จะลดน้อยลงค่ะ....
 
Share 22,264

Relate Article

ปฏิบัติการกำจัดเซลลูไลท์

เซลลูไลท์ศัตรูตัวร้ายของผู้หญิง ทำลายความมั่นใจโชว์เรียวขาสวย ไม่เพียงแค่ต้นแขน ต้นขา

more

เสียงเตือน....จากอาการปวดเข่า

อาการปวดที่เข่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเข่าเสื่อมเสมอไป และไม่ได้เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น ทั้งวัยกลางคน

more

ทำอย่างไรเมื่อนอนไม่หลับ

พฤติกรรมการนอนของคุณเป็นแบบไหน เมื่อหัวถึงหมอนก็นอนหลับสบาย ถ้าแบบนี้ นับว่าคุณเป็นคนโชคดี

more

ต้อหิน... ภัยเงียบที่อาจทำให้สูญเสียดวงตา

ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญ ทำให้เรามองเห็นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ถ้าต้องสูญเสียดวงตา

more

สุดยอดผักผลไม้ช่วยล้างพิษ

ในชีวิตประจำวันของคุณเสี่ยงกับสารพิษมากน้อยแค่ไหน ควันพิษจากรถยนต์ สารกันบูดในอาหาร

more

10 วิธีง่ายๆ เติมน้ำให้ผิวสวยเด้งสุขภาพดี

น้ำคือชีวิต... เพราะน้ำมีความสำคัญต่อร่างกาย ขาดอาหารอยู่ได้ แต่ขาดน้ำอยู่ไม่ได้ ผิวก็เช่นกัน

more